19/9/58

เทพแห่งมณเฑียร



ความรู้โบราณในวิชา เมตาฟิสิกส์ (Metaphysics) 

หมายถึงการอธิบายในรูปแบบ อภิปรัชญาภาวะเหนือธรรมชาติ ที่เป็นความจริงตามธรรมชาติ ในสาขา อภิปรัชญาของจักรวาล กล่าวถึงการแบ่งโครงสร้าง พลังงานที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ ของแหล่งกำเนิดโครงสร้างพื้นฐานธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงของจักรวาล รวมถึง ญาณวิทยา อันเป็นทฤษฎีของความรู้ เชื่อมต่อความจริง ความเชื่อและเหตุผล อันบริสุทธิ์ ที่อยู่นอกเหนือขอบเขต ของวิทยาศาสตร์ทางกายภาพ  เกิดจากสิ่งต่างๆ 5 แหล่ง คือ
1.พลังจากจักรวาล เช่น จากดาราจักร หรือ กลุ่มดาว หรือ ดวงหนึ่งดวงใด เช่น รังสีจักรวาลขั้นพลังสูง
2.พลังจากเทพ องค์หนึ่งองค์ใด หรือหลายองค์ ที่บุคคลนั้นๆ นับถือบูชา มาอย่างช้านาน เช่น เทวสภาโอลิมปัส (เทพกรีก)  เทพแห่งมณเทียร (เทพฮินดู)
3.พลังจากเหนือพิภพ ต้องตั้งอยู่บนพื้นโลก เช่น ภูเขาไฟ วัตถุขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา เช่น วัด หรือ สถานศักดิ์สิทธิ์โบราณ
4.พลังจากใต้ดิน ที่สะสมมายาวนาน จากกลไกของโลกหรือจากการเชื่อมโยง มาจากที่หนึ่งที่ใด แต่ได้สะสมไว้ในใต้พื้นผิว

5.พลังจากตนเอง ซึ่งอยู่ที่จักระ 1


เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู


ทพแห่งมณเทียร เทพพลังจักรวาลฮินดู

ดังนั้น เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู เป็นพลังจิตแห่งเทพแขนงที่สำคัญ อีกทางหนึ่งนอกจากนั้น ยังมีบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณใน ศาสนาฮินดูและศาสนาฮินดูอวตาล ในทฤษฎีอินเดียโบราณเกี่ยวกับการสร้างของจักรวาล ในตำราพิธีกรรมเวทบทสวดโบราณ อีกหลายประการ มึรายละเอียดเทพเจ้าแต่ละองค์ตามลำดับดังนี้

1.พระนารายณ์ (Narayana) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจฎีกา
2.พระแม่ลักษมี (Lakshmi) เทวีผู้ทรงแห่งอำนาจความผาสุข
3.พระกฤษณะ (Krishna) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจศิลปะการแสดง
4.พระแม่ราธาเทวี (Radha) เทวีผู้ทรงแห่งอำนาจจิตนิรันดร์
5.พระพรหม (Brahma) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจสากลจักรวาล
6.พระพิฆเนศวร (Ganesh) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจความสำเร็จ



1.พระนารายณ์ (Narayana) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจฎีกา

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู

พระนารายณ์ ทรงมีอำนาจดุจดั่ง ศาลฎีกาของทวยเทพ ในศาสนาฮินดูนับถือเป็นอำนาจสูงสุด ในคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เช่น Bhagavad Gita (บทเพลงสวด) และ Vedas (คัมภีร์ที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดีย) และ Puranas (ตำราประวัติศาสตร์ของจักรวาลโบราณของฮินดู)  อธิบายว่า เป็นเทพแห่งเมฆที่เต็มไปด้วยน้ำ ซึ่งน้ำหมายถึงเป็นต้นกำเนิดระบบชีวิตแห่งระบบสุริยะ ทรงถืออาวุธ 4 อย่าง คือ ปัทมา (ดอกบัว) คทา สังข์ และอาวุธจักร พระองค์อยู่นอกเหนือข้อจำกัด สามัญของการรับรู้ของมนุษย์หรือจินตนาการใดๆ ยกเว้นการสื่อพลังโยงใยกันแบบหนึ่งแบบใด เช่น การสวด บูชา ภาวนา

ในคัมภีร์พระเวท จะกล่าวถึงพระนารายณ์ ว่าเป็นความสุดยอดยิ่งใหญ่แห่งเทพ แห่งจิตวิญญาณ  แห่งแสงและพลังงานจักรวาล ถือว่าพระนารายณ์เป็นเทพดึกดำบรรพ์ ซึ่งมีต้นกำเนิดทุกอย่างทั้งภายในและภายนอก อบอวลไปทั่วในจักรวาลทางจิตวิญญาณ และเป็นผู้ค้ำจุนรักษาจักรวาล และใน Bhagavata Purana (คัมภีร์ของศาสนาพรามณ์โบราณ) กล่าวถึงพระนารายณ์ ทรงสร้างโลก 14 แห่งในจักรวาล การบูชาพระนารายณ์จะเป็นหนทางทำลายความชั่วร้าย ให้สิ้นไปจากวงจรที่จะเกิดขึ้นใหม่ และที่พำนักของพระนารายณ์เป็นนิรันดร์สูงสุด เป็นดินแดนแห่งความสุขและความสุข

การค้นพบทางโบราณคดี พบหลักฐานรูปสลักหินบูชา พระนารายณ์ ในวัดถ้ำ Badami ภายในมีความซับซ้อนในทะเลสาบเทียมโบราณเต็มไปด้วยน้ำสีเขียว กักน้ำด้วยกำแพงดินและบันไดหิน ใกล้เมือง Bagalkot ทางเหนือของ Karnataka สร้างในต้นราชวงศ์ Chalukya ช่วงศตวรรษที่ 6 -กลางศตวรรษ

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
รูปสลักหินบูชา พระนารายณ์ ในวัดถ้ำ Badami

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
พระนารายณ์ ตามตำราประวัติศาสตร์ของจักรวาลโบราณของฮินดู


2.พระแม่ลักษมี (Lakshmi) เทวีผู้ทรงแห่งอำนาจความผาสุข

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู

พระลักษมี เป็นพระมเหสีของพระนารายณ์ ในศาสนาฮินดู อธิบายว่า เป็นความมั่งคั่งโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง ทั้งกายและจิตวิญญาณเป็นศูนย์รวมของความสวยความงาม สิ่งที่ถือในพระหัตถ์ทั้งสี่ คือ ธรรมะ กามารมณ์ ทรัพย์ และการหลุดพ้น อันเป็นตัวแทนของสี่เป้าหมาย ของชีวิตมนุษย์ถือกำเนิดขึ้นบนโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำคัญสำหรับพิธีกรรมในพิธีสำหรับเจ้าสาว และเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของชาวฮินดู

ในคัมภีร์ฮินดูโบราณยังอธิบายว่า พระแม่ลักษมี คือ "stream of gems” หมายถึง “กระแสของอัญมณี" ที่จะช่วยเหลือให้ทุกคนสมหวังดังตั้งใจ จากความเมตตาและเอื้อเฟื้อด้วยจิตบริสุทธิ์ดังกล่าว จึงถูกยกย่องให้พระโพธิสัตว์อินเดีย และต่อมาเป็นที่นิยมศรัทธา ในผู้ที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมาก จากยอดเขาเนปาลไปยังภาคใต้ของอินเดีย

การค้นพบทางโบราณคดี อายุ 300 ปีก่อนพุทธกาล เป็นเหรียญบูชา และนอกจากนั้นในตำรา The  Shatapatha Brahmana (ตำราพิธีกรรมเวทโบราณ) เล่มที่ 9 (จาก 17 เล่ม) อันเป็นส่วนหนึ่งในหลายทฤษฎีอินเดียโบราณเกี่ยวกับการสร้างของจักรวาล กล่าวถึงพระลักษมีว่า เป็นการจุติมาจากธรรมชาติของจักรวาลด้วยอำนาจและพลังงานอันยิ่งใหญ่ คุณสมบัติลักษณะและอำนาจของพระลักษมี จึงเป็นสิ่งบรรลุความรู้ทางจิตวิญญาณ และตระหนักรู้ในตนเอง นำมาสู่ความมั่งคั่งที่แท้จริง


เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
ตัวอย่าง คัมภีร์ - ตำราพิธีกรรมเวทโบราณ

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
คัมภีร์ฮินดูโบราณอธิบายว่า พระแม่ลักษมี คือ "stream of gems” หมายถึง “กระแสของอัญมณี"


3.พระกฤษณะ (Krishna) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจศิลปะการแสดง

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู


ในศาสนาฮินดู การบูชาพระกฤษณะมีความหลากหลายมุมมองที่แตกต่างกัน เรื่องราวของพระกฤษณะปรากฏในมุมกว้างของประเพณีปรัชญาและเทววิทยาฮินดู จาก  Hindu philosophical (กลุ่มปรัชญาอินเดียโบราณ) จึงเกิดการบูชาแบบ Vasudeva (เต้นรำทำเพลงแบบไพเราะเบาๆ) ในช่วงศตวรรษที่ 2 และเกิดการยกย่องบูชาสูงสุดใน ศตวรรษที่ 4 เรียกว่า Krishnaism (ลัทธิพระกฤษณะ) บริบทดังกล่าว ได้เคลื่อนไหวการบูชาพระกฤษณะ อย่างแรงกล้า ในด้านศิลปะการแสดงในศตวรรษที่ 10 และแผ่กระจายในโลกตะวันตกและในแอฟริกา

Vaishnavism (หลักธรรม หนึ่งในสาขาที่สำคัญของศาสนาฮินดู) เชื่อมั่นในการเป็นพระนารายณ์เป็นสูงสุดในขณะที่ Krishnaism (ลัทธิพระกฤษณะ) ยอมรับพระกฤษณะคือพระนารายณ์ ดังนั้นการบูชาพระกฤษณะจึงนิยมในหมู่นิกายต่างๆที่มีอยู่ทั่วไปกว้างขวาง แต่มักไม่ใช่นักบวชในยุคนั้น

จากบทกวีโบราณของ Alvars (ในศาสนาฮินดูอวตาร) ได้บรรยายความเด่นชัดของพระกฤษณะว่า "ปราชญ์" หรือ "เซนต์ส" คือสาวก จึงเป็นสิ่งสำคัญไม่ได้สร้างความแตกต่าง ระหว่างพระกฤษณะและพระนารายณ์บนพื้นฐานของแนวคิด ของศาสนาฮินดูอวตาร ผู้นับถือบูชาพระกฤษณะเป็นส่วนใหญ่ยอมรับถึงการอวตาร ของเทพเจ้าดังกล่าวจากศตวรรษที่ 2 มาจวบจนปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นไปด้านพลังอำนาจศิลปะการแสดง


การค้นพบทางโบราณคดี คือการค้นพบภาพเขียนระบุสถานที่ ศูนย์กลางอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เรียกว่า Krishna holding  เพื่อปกป้องภัยพิบัติให้มนุษย์ สถานที่คือ Govardhan หรือ  Giriraj เป็นเนินเขายาว 8 กิโลเมตรอยู่ใกล้กับเมือง Vrindavana ใน Uttar Pradesh อินเดีย ภาพหลักฐานดังกล่าวปัจจุบัน ถูกเก็บรักษาไว้ที่ สถาบันสมิธโซเนียน อเมริกา

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
Govardhan หรือ  Giriraj เป็นเนินเขายาว 8 กิโลเมตร

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
บทกวีโบราณของ Alvars (ในศาสนาฮินดูอวตาร) ได้บรรยายความเด่นชัดของพระกฤษณะว่า "ปราชญ์" หรือ "เซนต์ส"

4.พระแม่ราธาเทวี (Radha) เทวีผู้ทรงแห่งอำนาจจิตนิรันดร์

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู

เทพเจ้าในศาสนาฮินดู พระแม่ราธาเทวี มักจะปรากฎควบคู่ไปกับพระกฤษณะ ในประเพณีสักการะบูชาจัดว่าเป็นเทพธิดาสูงสุด ที่มาพร้อมบทสวดกับหัวใจอันบริสุทธิ์ ปรัชญาพื้นฐานของ Bhagavad Gita (บทเพลงสวด) และ Puranas (ตำราประวัติศาสตร์ของจักรวาลโบราณของฮินดู) พระแม่ราธาเทวีคือราชินีของพระกฤษณะเป็นจิตวิญญาณเทพของเจ้าแม่ลักษมี

การเชื่อมต่อระหว่าง พระกฤษณะ และพระแม่ราธาเทวีคือ ความสัมพันธ์ในด้านคู่ ในโลกจิตวิญญาณและความสัมพันธ์ด้านนิรันดร์จิต คือ ความรัก สิ่งนี้ถือเป็นสิ่งสูงสุด เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้มีลักษณะทางเพศ เช่นบนโลกมนุษย์  ใน Nimbarkacharya (คำเทศน์โบราณ) ให้ความหมายว่าเป็นความลึกลับสูงของความสัมพันธ์แบบจิตสมาธิ

การค้นพบทางโบราณคดี คือการค้นพบภาพเขียน 2 ภาพ ที่เกี่ยวกับพระแม่ราธาเทวี คือ Her Beloved Page (หน้าเธอเป็นที่รัก) และ Krishna and Radha Seated on a Terrace (พระกฤษณะและพระแม่ราธาเทวี ทรงประทับที่ชานระเบียง) ภาพหลักฐานดังกล่าวปัจจุบัน ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์บรูคลิ เยอรมันนี


เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
Her Beloved Page (หน้าเธอเป็นที่รัก) และ Krishna and Radha Seated on a Terrace (พระกฤษณะและพระแม่ราธาเทวี ทรงประทับที่ชานระเบียง)

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
พระแม่ราธาเทวี มักจะปรากฎควบคู่ไปกับพระกฤษณะ

5.พระพรหม (Brahma) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจสากลจักรวาล

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู

การสร้างพระหรหมในศาสนาฮินดู มี 4 หน้า มองออกไป 4 ทิศ มีสี่หน้ามองในสี่ทิศทาง ความศรัธานับถือในศาสนาฮินดู อธิบายว่า พระหรหมเป็นประธานในการให้กำเนิด และการป้องกันชีวิตและจึงเป็นกษัตริย์แห่งกษัตริย์

ต้นกำเนิดของพระพรหมเทพในส่วนหนึ่ง พบในในวรรณคดีเวทพราหมณ์ และพระสงฆ์ มีความแตกต่างระห่างทางจิตวิญญาณ กล่าวคือ  พระพรหมเป็นเพศที่เป็นกลาง อาจไม่มีตัวตน ความหมายว่า พระพรหม อาจไม่มีตัวตนนั้น ในทางจักรวาลวิทยา ให้เหตุผลว่า สิ่งต่างๆในจักรวาลชั้นสูงนั้น เป็นสิ่งพิเศษ คือ มีแต่เหมือนไม่มี อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจยากของคนทั่วไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับกาลเวลาในมิติที่ต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงเป็นรูปแบบพลังประเภทหนึ่ง ที่มองไม่เห็นคล้ายหาไม่พบ แต่มีอยู่ในจักรวาล

Panchavimsha Brahmana (บทสวดหนึ่ง มีข้อความภาษาสันสกฤตโบราณ เป็นหนึ่งในสี่แห่งคัมภีร์พระเวทในศาสนาพราหมณ์ฮินดู อายุ 1,000 - 1,400 ปีก่อนคริสตกาล) ระบุว่า พระพรหม เป็นเทพเจ้าสำคัญองค์หนึ่ง ในสากลจักรวาล และเป็นจิตวิญญานของพราหมณ์ ผุดขึ้นจากความมืดแห่งจักรวาล จากความบริสุทธิ์และความดีงาม  Purana (ตำราประวัติศาสตร์จักรวาลโบราณของฮินดู) กล่าวว่าพระพรหมเกิดท่ามกลางมหาสมุทรธรรมชาติแห่งจักรวาล เพื่อสร้างความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต

การค้นพบทางโบราณคดีคือ รูปปั้นพระพรหมในศตวรรษที่ 12 ที่วัด Chennakesava ใน Karnataka ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย และพบภาพเขียนโบราณในตำนานพรหม ของศาสนาฮินดูมีการกล่าวถึงดาวเคราะห์ทั้งหมดของจักรวาล เกี่ยวข้องกับพระพรหม


เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
ภาพเขียนโบราณในตำนานพรหม วัด Chennakesava ใน Karnataka

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
พระหรหม ได้รับเชิญจากพระกฤษณะให้เข้าเฝ้า

6.พระพิฆเนศวร (Ganesh) เทพผู้ทรงแห่งอำนาจความสำเร็จ

เทพแห่งมณเฑียรเทพเจ้าฮินดู


เป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่รู้จักกันดีและบูชามากที่สุดในวิหารฮินดู อินเดีย ศรีลังกา เนปาล และชาวพุทธทั่วไป หลายนิกายให้ความเคารพบูชาโดยไม่คำนึงถึงความผูกพัน อุทิศให้กับพระพิฆเนศวรกระจายอย่างกว้างขวาง

Mythological anecdotes of Ganesha (ตำนานโบราณ พระพิฆเนศวร) ถูกพบ 600 ปีก่อนคริสตกาล กล่าวว่าพระพิฆเนศวรเป็นเทพเจ้าช่วยมนุษย์กำจัดอุปสรรค ผู้มีพระคุณด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์และเป็นเทพแห่งสติปัญญาและภูมิปัญญา Ganesha Purana (พระคัมภีร์ที่สำคัญของศาสนาฮินดู) ได้ระบุไว้ถึงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากมาย ศตวรรษที่ 4 และ 5 จึงมีการนับถือกว้างขวาง และศตวรรษที่ 10 กล่าวว่า พระพิฆเนศวรเป็นเทพสูงสุด

ความแตกต่างในการกล่าวถึง พระพิฆเนศวร ในตำนานโบราณ คือ กลุ่มของสิ่งมีชีวิตกึ่งพระเจ้า ในภาษาทมิฬ หมายถึง เด็กที่มีเกียรติ ในพม่าใช้คำว่า มหา และในประเทศไทย ใช้คำว่า พระ ในศรีลังกาใช้คำเรียกว่า Aiyanayaka Deviyo และชาวพุทธบางกลุ่มเรียก Singhala นั่นหมายความว่า เป็นที่รู้จักนับถือบูชาไปในหลายเผ่าพันธ์มนุษย์

ภาพบูชาของพระพิฆเนศวรเป็นที่แพร่หลายในหลายส่วนของประเทศอินเดียช่วงศตวรรษที่ 6 และมีการรูปปั้นบูชาในศตวรรษที่ 13 และมีคุณลักษณะที่เกิดขึ้นในรูปต่างๆ จากเทพเจ้าองค์อื่นๆ เช่น ยืนเต้นรำอย่างกล้าหาญ บางครั้งเป็นรูปปั้นเด็กนั่งหรือยืน ท่าอ่านตำรา ท่ายืนน่าเกรงขามมีอาวุธ ท่านั่งสง่างาม เป็นต้น

การค้นพบทางโบราณคดี คือภาพที่ปรากฎอยู่ตามวัดฮินดู ในช่วง ศตวรรษที่ 4 และ 5 และรูปปั้น Heramba-Ganesha
(พระพิฆเนศวรกับพระมเหสี) ในศตวรรษที่ 18 ในเนปาล และภาพ พระอิศวรและพระแม่อุมาเทวี สรงน้ำให้พระพิฆเนศวร ในศตวรรษที่ 18 ถูกเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์นิวเดลี

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
รูปปั้น Heramba-Ganesha (พระพิฆเนศวรกับพระมเหสี)

เทพแห่งมณเทียร เทพฮินดู
ตำนานโบราณ พระพิฆเนศวร ถูกพบ 600 ปีก่อนคริสตกาล


บทความรู้โดย Cosmos Odyssey