4/10/58

ออร่าบนร่างกายมนุษย์

ศาสตร์พลังอัญมณีแห่งจักรวาล


 พื้นฐานที่มาของออร่า

ภาพที่ปรากฎขึ้นนั้นจะมีเงาล้อมวัตถุ เป็นรูปกลุ่มไอสีขาวเทา หรือหมอกจางๆเป็นขอบรัศมี หรือเส้นใย ในแบบหนึ่งแบบใด บางคนเรียกว่า ออร่า (Aura) แท้จริงแล้ว เป็นลักษณะสนามพลังไฟฟ้าชีวภาพ (Bio-electric energy field) ซึ่งเกิดขึ้นล้อมรอบๆสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ แต่ในหลายครั้งที่มีภาพถ่ายจากกล้องถ่ายภาพ และเกิดลักษณะเดียวกันนี้ บริเวณสิ่งศักดิ์ หรือวัตถุที่บูชาต่างๆ ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นเพียงผลกระทบของแสง หรือมุมแสงจากการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญได้ อาจไม่ใช่ภาพออร่า ที่แท้จริง

โดยทั่วไปออร่า มีหลายประเภทเป็นสิ่งที่มีจริง และสายตามนุษย์มองไม่เห็น แต่อาจมีผู้ที่มีลักษณะพิเศษ เช่น ตาที่สาม (Third Eye) หรือผู้ที่ปฎิบัติสมาธิในรูปแบบต่างๆ มองเห็นได้ และแน่นอนว่ามิใช่ปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติที่ไม่มีเหตุผล แต่จะมีที่มาต่างกันออกไป เป็นรัศมีที่แผ่อำนาจออกมาบริเวณรอบๆสิ่งนั้น มิเพียงแต่บนร่างกายมนุษย์ อาจแผ่รังสีออกมาจากบนอาคาร ภูเขา ต้นไม้ แม้กระทั่งอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น สมาร์ทโฟน หรือ จากแร่และหิน ทุกชนิด หรือจากสิ่งที่นับถือบูชามาช้านาน แต่การแผ่รังสีจะมีประโยชน์เพียงใด ขึ้นอยู่กับที่มาขององค์ประกอบของธาตุ การแผ่รังสีนั้นๆ จากสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Field) ซึ่งจะแสดงแถบรังสีของ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Specturm) ออกมา


ศาสตร์พลังอัญมณีแห่งจักรวาล
ภาพถ่ายรังสีไฟฟ้าของมนุษย์ โดย Semyon Kirlian & Valentina Kirlian  รายงานในวารสาร Russian Journal of Scientific เรียกว่า Kirlian photography 

สำหรับหัวข้อนี้ กล่าวถึงเฉพาะเรื่อง ออร่า การแผ่รังสีที่เป็นรัศมี ออกมาจากร่างกายมนุษย์ โดยมีที่มา 3 ระดับ ด้วยกันคือ

1.Human Body Class : ระดับสัมพันธ์ร่างกายมนุษย์

โดยทั่วไปในร่างกายมนุษย์ มีไฟฟ้าอ่อนๆ บริเวณผิวจะเรืองขึ้นเป็นแสงสีขาวบางๆ แต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ซึ่งในกรณีนี้ถือเป็น ออร่าปกติทั่วไปของมนุษย์ทุกคนรวมทั้งสัตว์ พืช สิ่งของสำหรับมนุษย์ มักมีความหนาจากผิวเฉลี่ยประมาณ 1 ซม. มีที่มาจากสนามพลังไฟฟ้าชีวภาพของมนุษย์เอง จากการเผาผลาญภายในร่างกาย (เกิดจากกระแสไฟฟ้าระดับต่ำๆ) ที่ทำงานหล่อเลี้ยง และแผ่รัศมีออกมา ทั้งนี้ไม่มีผลใดๆต่อภายนอก และในบางกรณีที่ออกกำลังกาย จะแสดงไอความร้อนออกมาปะปนด้วย (เกิดจากความอุณหภูมิความร้อน) ซึ่งต้องแยกกัน ระหว่าง ออร่าและไอความร้อน



ศาสตร์พลังอัญมณีแห่งจักรวาล

 2.Meditation Class : ระดับจิตสัมพันธ์สมาธิ

ระดับนี้ มีการเกิดขึ้นในหลายกรณี เช่น จากการปฎิบัติสมาธิ จากการสำรวมจิตมุ่งไปสิ่งหนึ่งสิ่งใด รวมถึงการภาวนา หรือบางกรณี เพียงแค่นึกคิด ก็สามารถแสดง แสงออร่าออกมา ล้อมรอบตัวมากกว่าปกติ และอาจมีแสงเรืองหลายสี ต่างสีกัน บางกรณีเป็นลักษณะคล้ายกากเพชร สีเงิน หรือสีทอง ปลิวปกคลุมไปทั่วร่างกาย ซึ่งเกิดจากความเสถียรในระบบไฟฟ้าของร่างกาย และอะตอมท่วมล้นออกมา แต่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะมีสัญญานการก่อพลังงาน จากภายในร่างกายจากตำแหน่งต่างๆได้ (อาจไม่ครบทุกจุด)  และมีความหนาของแสง แผ่ออกมาหลายฟุตตลอดเวลา ถ้าหยุดปฎิบัติกิจดังกล่าว ก็ยังสามารถแสดง แสงออร่าที่แผ่ออกมา จากการสะสมในระยะหนึ่ง



ศาสตร์พลังอัญมณีแห่งจักรวาล

3. Stellar Class : ระดับจิตสัมพันธ์จักรวาล

ระดับนี้บางคนมีมาเองแต่กำเนิด โดยไม่รู้ตัว และอาจมีเฉพาะบางส่วนของร่างกาย ส่วนใหญ่มักอยู่ที่บริเวณศรีษะ มีลักษณะแผ่รังสีเป็นรูปทรงของแสงออร่า เช่น เป็นวงกลมหลายวง เป็นวงรี เป็นวงแหวซ้อนกันหลายชั้น และชั้นของแสงอาจมีสีเดียว เช่น สีเหลือง สีฟ้า สีชมพู ฯลฯ หรือหลายสี เรียงออกมาเป็นชั้นๆจากผิว มีความหนาแต่ละสีต่างกันไป แผ่ออกมา ตั้งแต่ 1 ฟุต ถึง 3 ฟุต อย่างน่าพิศวง ในบางคนอาจมีท่วมไปทั่วร่างกาย โดยตนเองไม่ทราบแม้แต่น้อย แสงรอบตัวในระดับนี้ เรียกว่า รังสีจักรวาล หรือ พลังจักรวาล  เป็นการเชื่อมโยงพลังงาน มาจากอวกาศอันไกลโพ้น ซึ่งมีนักฟิสิกส์จำนวนไม่น้อย ความสนใจในการค้นคว้า 


วิธีการในกรณีเหล่านี้ ไม่เกี่ยวกับญานและการปฎิบัติสมาธิทางศาสนา มิใช่ศาสตร์ลึกลับซับซ้อน บุคคลส่วนหนึ่งสามารถเข้าถึงได้ สามารถนำมาการเพิ่มพลังงานในตัว โดยมีหลักเกณฑ์ปฎิบัติด้วยตนเอง ทดสอบด้วยตนเอง รู้ผลด้วยตนเอง จัดว่าเป็นพลังจักรวาลในแง่บวกโดยตรงสมบูรณ์แบบ  และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงสุขภาพและพลังจิตวิญญาน อย่างได้ผล (ซึ่งเป็นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า) เข้าสู่ร่างกายแบบสมดุลย์ ไม่มีอันตรายใดๆ ในวิธี ศาสตร์พลังอัญมณีแห่งจักรวาล


บทความรู้โดย Cosmos Odyssey